วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ประโยชน์ ของช็อกโกแลต








ใกล้จะวันวาเลนไทน์แล้ว หาช็อคโกแลตอร่อยๆให้หวานใจกันรึยังคะ วันนี้สะกิดมีประโยชน์ดีๆของช็อคโกแลตมาฝากกันค่ะ

  1. ช่วยปรับอารมณ์ และจิตใจ ให้เข้าสู่สภาวะปกติ 
  2. ช่วยลดอาการปวดท้อง หงุดหงิด หน้าบวม ตัวบวม ก่อนมีประจำเดือน 
  3. ช่วยแก้อาการเมาค้าง หรือ hangover ได้ด้วย จะได้เลิกเมาค้าง ข้ามวันข้ามคืน 
  4. ป้องกันการเกิดมะเร็ง เพราะได้พิสูจน์พบแล้วว่า สารที่พบในช็อกโกแลต 
  5. เป็นสารชนิดเดียวกันกับ สารที่พบใน ผัก ผลไม้ และไวน์แดง 
  6. ช่วยลดอาการอักเสบ เวลาเจ็บป่วยต่างๆ 
  7. มีผลต่อสมอง เพราะช่วยให้ตื่นตัว และยังช่วยให้ กระฉับกระเฉงอีกด้วย 
  8. ในมิลค์ ช็อกโกแลต อัตราส่วน 1.4 ออนซ์ จะประกอบด้วย โปรตีน 3 กรัม แคลเซียม 5% และธาตุเหล็กถึง 15%  
  9. โดยเฉพาะช็อกโกแลต ที่ใส่ถั่ว หรืออัลมอนด์ จะมีสารอาหารพวกนี้มากขึ้นตามไปด้วย 
นอกจากนี้ยังมีการทดลองและวิจัยพบอีกว่า  ผู้ที่ดื่มนมช็อคโกแลต เป็นประจำทุกวันนั้น ไม่มีปริมาณคอเลสเตอรอลที่เป็นอันตรายเพิ่มขึ้น ทั้งที่บริโภคไขมัน (จากนม) เข้าไปเป็นจำนวนมาก เท่านั้นยังไม่พอ ช็อคโกแลตยังอุดมไปด้วยสารเคมีที่ทำให้ร่างกายรู้สึกสบายใจ สดชื่นและมีความสุข




ที่มา http://sakid.com/2012/02/08/30792/

5 วิธีเลือกที่นั่งต้านกระดูกเสื่อม

        เมื่อมีอายุมากขึ้นทุกคนอาจเป็นโรคกระดูกเสื่อมได้ตามธรรมชาติ แต่สำหรับผู้ที่
ต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน หรือนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน
โรคนี้อาจมาเยือนได้เร็วกว่าบุคคลอื่น ซึ่งวิธีการป้องกันหรือชะลอภาวะกระดูกเสื่อม
แบบง่ายๆ นั้น ทำได้โดยการเลือกที่นั่งให้เหมาะสม 5 วิธี ดังนี้

1. ความสูงของเก้าอี้ ต้องเท่ากับช่วงยาวของขาท่อนล่าง (น่อง) ตั้งแต่ข้อพับ
หลังหัวเข่าลงไปถึงเท้า เพื่อจะได้วางเท้าราบพื้นพอดี

2. รูปร่างของเบาะนั่ง ต้องไม่บุ๋มเป็นแอ่ง มิเช่นนั้นจะทำให้กระดูเชิงกราน
(ซึ่งเป็นฐานของกระดูกสันหลังทั้งหมด) บิดงอ

3. เบาะไม่ควรอยู่ลึกเกินไป และพนักพิงไม่ควรอยู่ไกลเกินไป หากพิงไม่ถึง
และต้องเอนตัวไปด้านหลัง จะทำให้หลังงอ

4. ควรมีพนักพิง เพื่อช่วยดันหลังให้อยู่ในท่าตรงตามธรรมชาติ

5. ที่เท้าแขนอยู่ในระดับที่งอข้อศอกแล้ววางแขนได้พอดี เพราะนอกจากใช้พักแขน
และข้อศอกแล้วยังใช้สำหรับดันเพื่อยืดตัวให้ตรงขึ้นได้

เล็กน้อยเพียงเท่านี้คงไม่ยากเกินไปที่จะใส่ใจ
กับสิ่งของที่เราต้องใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน
เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

ที่มา : หนังสือ "เรียนรู้สู้กระดูกเสื่อม" โดยนายแพทย์ถาวร สุทธิยุทธ์ และนิตยสารชีวจิต ฉบับ 1 พ.ค. 2552

แก้ความจำเสื่อมด้วยใบบัวบก

        บัวบก มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ คือ Centella asiatica และมีชื่อภาษาอังกฤษ
คือ Tiger's herb ซึ่งมาจากการที่เสือบาดเจ็บ มักจะลงกลิ้งไปกลิ้งมาบนต้นบัวบก
ที่เลื้อยปกคลุมดิน เพื่อรักษาแผลให้ตัวเอง ผู้คนส่วนมากทราบกันว่าเป็นสมุนไพร
มีสรรพคุณแก้อาการช้ำใน แต่ในทางการแพทย์แผนโบราณยังมีการกล่าวถึง
สรรพคุณด้านการบำรุงประสาท ลดความบกพร่องในเรื่องการเรียนรู้และความจำ
จากการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและฤทธิ์ป้องกันภาวะสมองเสื่อมของบัวบก
ในวิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสรีรวิทยาทางการแพทย์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ของคุณธนียา หาวิเศษ ในปี พ.ศ. 2549
ทดลองให้สารสกัดน้ำบัวบกแก่หนูตั้งแต่ 100, 300 และ 600 ม.ก.
ต่อน้ำหนักตัว (ก.ก.) เป็นเวลา 3 สัปดาห์ พบว่าสารสกัดบัวบกขนาด 100 ม.ก.
ต่อน้ำหนักตัว (ก.ก.) มีฤทธิ์คลายความกังวล นอกจากนั้นยังพบว่าสารสกัดขนาด
600 ม.ก. ต่อน้ำหนักตัว (ก.ก.) มีผลเพิ่มการเรียนรู้และความจำของหนูที่ใช้ทดลอง
ดังนั้น การศึกษานี้จึง สนับสนุนความน่าเชื่อถือในสรรพคุณของบัวบกตามแนวทาง
การแพทย์แผนโบราณ ดังกล่าว
สมุนไพรไทยใกล้ตัวที่มีประโยชน์ หาซื้อง่าย หรือจะปลูกเองก็ไม่ยุ่งยากอย่างบัวบก
สามารถนำมาประกอบอาหารรับประทานได้หลากหลาย โดยนำมาทำเป็นผักจิ้ม
ผักเคียง หรือคั้นแล้วดื่มน้ำจากใบบัวบก ก็บำรุงสมองได้ง่ายๆ ด้วยวิธีธรรมชาติ
แถมราคาประหยัดอีกด้วย

ที่มา : บัวบกเพิ่มสมาธิ - นิตยสารชีวจิต ปีที่ 11 ฉบับ 1 ก.ค. 2552,
บัวบก สมุนไพรมหัศจรรย์ บำรุงความจำ บำรุงสุขภาพ - http://www.hiso.or.th/hiso/ghealth/ghealth5_10.php,
การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและฤทธิ์ป้องกันภาวะสมองเสื่อมของบัวบก - http://tdc.thailis.or.th/

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับครีมกันแดด

อากาศร้อน และแดดแรง อย่างประเทศไทย ครีมกันแดดจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น
สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพผิว เมื่อต้องเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับตัวเอง
มองดูฉลากข้างกล่องแล้วก็มีศัพท์ที่น่าสนใจ ให้เราต้องเลือกดังนี้
1. "SPF" ย่อมาจาก Sun Protection Factor เป็นค่าในการชี้วัดว่าเราสามารถ
อยู่กลางแสงแดดได้นานแค่ไหน โดยที่ไม่รู้สึกร้อนหรือแสบบริเวณผิว เช่น
ถ้าเรามีผิวที่แพ้แสงแดดและแสบร้อนง่ายในเวลา 20 นาที ครีมกันแดดที่มี SPF 15
จะช่วยปกป้องเราจากแสงแดดได้นาน 15 เท่า และเมื่ออยู่กลางแดดมากๆ ควรเลือก
ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงขึ้น

2. "Waterproof" แม้จะเขียนว่า Waterproof (กันน้ำ) แต่ก็ไม่สามารถกันน้ำได้ 100% ดังนั้น เพื่อให้ได้ผลต้องทาครีมกันแดดอย่างต่อเนื่อง โดยทาซ้ำทุกครั้งที่เหงื่อออก หรือทุกครั้งในช่วงพักว่ายน้ำ

3. "UVA และ UVB" ถ้าเขียนไว้ว่า.. มี UVA หมายถึง ครีมกันแดดนั้น มีคุณสมบัติ ป้องกันกระ ฝ้า และป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย แต่ถ้าเขียนไว้ว่า..
มี UVB หมายถึง ครีมกันแดดนั้นมีคุณสมบัติ ป้องกันอาการแพ้ แดง แสบภาพประกอบจาก http://www.nivea.co.th
และไหม้ของผิวหนัง

หวังว่า..จะเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับตัวเองได้ดีขึ้น
ส่วนเทคนิคในการใช้งานครีมกันแดดที่ต้องจำไว้ให้แม่นๆ
ก็คือ ครีมกันแดด ไม่สามารถป้องกันแสงแดดได้ 100%
ดังนั้น เมื่อต้องออกแดด เช่น เล่นกีฬากลางแจ้ง
ควรสวมแว่นกันแดด หรือหมวกกันแดดจะป้องกันได้มากขึ้น ส่วนการทาผิวควรเกลี่ยครีมให้เรียบเสมอ และทาให้ทั่วบริเวณที่ต้องการปกป้องจากแดด
เพื่อป้องกันผิวด่างดำเฉพาะที่ และเลิกใช้ทันที
ถ้ามีอาการแพ้ มีผื่นแดง และคัน

ที่มา : นิตยสาร "ผาสุก" (phasuk) 
บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด ปีที่ 31 ฉบับที่ 163 เมษายน - มิถุนายน 2551